เงินสี่ด้าน

วันจันทร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2553

                                                      E S B I คุณเป็นคนประเภทไหน ??

E (Employee) - ลูกจ้าง

- รับค่าตอบแทนเป็นเงินเดือน
- รายได้ตามตำแหน่งงานที่ได้รับ
   มอบหมาย
- นายจ้างเป็นผู้กำหนดวิถีชีวิตและ
   เงินเดือนให้คุณ
- ขาดอิสรภาพ ต้องเซ็นต์ชื่อ
   ตอกบัตร
- ตกงานเท่ากับล้มละลาย (ตกงาน
   3 เดือน ไม่ต่างจากคนล้มละลาย)
- อยู่ในวงจรหนี้สิน ผ่อนบ้าน ผ่อน
   รถ ฯลฯ
B (Business Owner) - เจ้าของธุรกิจ

- มีทุน
- หาคนเก่งๆ มาทำงานให้
- ไม่ทำก็มีรายได้

B มีหลายประเภท
- บริษัท
- แฟรนไซน์
- การตลาดแบบเครือข่าย (เป็น
   ช่องทางที่จะเป็นเจ้าของกิจการ
   ที่มีความเสี่ยงน้อย)
S (Self-employed) - ทำธุรกิจส่วนตัว
- ขายเวลาแลกกับเงิน จ้างตัวเอง
   ทำงาน
- ชอบคิดเองทำเอง, ควบคุมทุก
   อย่างด้วยตัวเอง
- ขาดประสบการณ์
- เจอคู่แข่งที่มีทุนหนากว่า
- อาจจะทนทำ เพราะชอบ อิสระ
   แต่ไม่มี อิสรภาพ
I (Investor) - นักลงทุน
- ไม่ได้ทำงานเพื่อเงิน
- มองผลตอบแทนจากการปันผล
   ดอกเบี้ย
- ซื้อกิจการมาปรับปรุง แล้วขาย
   ต่อ

 
 
คนฝั่งซ้าย
คนฝั่งขวา
มี ความกลัว เป็นตัวขับเคลื่อน มี ความฝัน (ความใฝ่ฝัน) เป็นตัวขับเคลื่อน
ยึดติดกับงานประจำ พยายามสร้างงาน
รายได้จำกัดรายได้ไม่จำกัด
ไม่มีเป้าหมายในชีวิต มีเป้าหมายชัดเจน
มองเห็นอุปสรรค มองเห็นโอกาส
ไม่เข้าใจคำว่า ทรัพย์สิน หนี้สิน เข้าใจคำว่าทรัพย์สิน - หนี้สิน
ทำงานเพื่อเงินใช้เงินทำงาน
คิดถึงความเสี่ยง คิดถึงความน่าเสี่ยง
ยึดติดกับสิ่งเก่า เรียนรู้สิ่งใหม่
ไม่มีแผนงาน มีแผนงานชัดเจน
ดำเนินชีวิตด้วยตัวเอง มีที่ปรึกษา
ชอบออกความเห็น ชอบหาความจริง
ชอบมีเงินสดเยอะๆชอบมี กระแสเงินสด สม่ำเสมอ
ชอบแสดงตัวว่าเก่ง ชอบมองหาคนเก่ง
ชอบวิธีการ ชอบวิธีคิด
ชอบการเฉลี่ย (ขจัดความเสี่ยง) ชองการจดจ่อ (Focus)
ถูกระบบความคุม ความคุมระบบ
เป็นส่วนหนึ่งของระบบ เป็นเจ้าของระบบ
เรียนเพื่อประกาศนียบัตร เรียนเพื่อหาความรู้
ทำงานเพื่อคนอื่นสร้างงานเพื่อคนอื่น
อยากทำบุญแต่ไม่มีงบ ทำบุญทุกครั้งที่มีโอกาส

แล้วคุณเลือกอยู่ฝั่งไหน ??????
งานประจำ ไม่ทำให้ร่ำรวยได้ มีแต่หนี้ ถ้าต้องการความสำเร็จ
ต้องเป็นเจ้าของธุรกิจ ธุรกิจมี 2 ประเภท คือ รวยแต่หยุดทำไม่ได้
กับรวยแล้วพักได้โดยรายได้ไม่หยุด
1. กิจการใหญ่ (ซีพี , AIS)
2. เจ้าของแฟรนไชส์ (แมคโดนัลด์ , 7-11)
3. ธุรกิจเครือข่าย

- การตลาดเครือข่าย เป็นเสมือนโรงเรียนสอนนักธุรกิจ
ที่ช่วยให้คุณย้ายฝั่งได้ง่าย ได้ผล และปลอดภัยที่สุด
- บริษัทเครือข่ายการตลาดที่ดีจะต้องมีระบบพัฒนาตัวคุณอย่างสมบูรณ์แบบ
(โดยสอนให้คุณเป็นนักธุรกิจ เพื่อเป็นเจ้าของธุรกิจ ไม่ใช่สอนให้คุณเป็นเซลส์แมน
หรือเพียงทำให้คุณมีรายได้ไปวันๆ บนความมั่นคงที่ไม่แน่นอน)

"คนที่รวยที่สุดในโลกล้วนแสวงหาการสร้างเครือข่าย
  ในขณะที่ผู้คนส่วนใหญ่กำลังหางานทำ"
หากคุณมีความคิดสร้างสรรอันยิ่งใหญ่
หรือสินค้าอันดีเยี่ยมปานใดก็ตาม มีเพียงหนทางเดียวที่จะนำท่านสู่ความสำเร็จ
คือ การใช้เครือข่ายการประชาสัมพันธ์ และเครือข่ายการ
จัดจำหน่ายสินค้า เหล่านั้นสู่มือผู้บริโภคอย่างได้ผล

เราวิ่งหาเงิน หรือ เงินวิ่งหาเรา?

วันอาทิตย์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เราวิ่งหาเงิน หรือ เงินวิ่งหาเรา?
เป็นการพูดเชิงเปรียบเทียบน่ะครับว่าทุกวันนี้เราพยายามวิ่งเพื่อที่จะหาเงินมาใช้ หรือว่าเราทำให้เงินทยอยมาหาเราเอง (อย่างงน่ะครับว่าเงินมันวิ่งมาหาได้ด้วยเหรอ) แนวความคิดนี้ที่เคยได้ยินมามักจะมาจากเรื่อง "เงิน 4 ด้าน" บางคนอาจจะได้ยินบ่อยๆว่ามาจากหนังสือ "พ่อรวยสอนลูก" "Rich Dad Poor Dad" ไม่ว่าจะเล่ม 1 หรือ 2 ก็ตาม แต่ที่ชอบมากที่สุดอีกแนวคิด ก็คือ แนวความคิด Active Income กับ Passive Income เหมือนๆกับเป็นการสรุปแนวความคิดของ เงิน 4 ด้านมา ว่าแล้วก็มาดูกันหน่อยว่ามันคืออะไร
Active Income (รายได้ซึ่งทำเมื่อไรจึงจะได้ ถ้าหยุกทำรายได้ก็หยุดตาม)

 
เป็นงานส่วนใหญ่ที่เราเห็นทุกวันนี้ เกิดจากงานที่เราต้องออกไปหาเงิน เช่น ทำงานประจำ รับจ้าง เป็นเจ้าของกิจการขนานย่อม หากเราหยุดทำรายได้ก็จะหยุดตาม
Passive Income (รายได้ซึ่งหยุดทำก็ยังได้เงิน)
เป็นงานที่เงินมาหาเรา จะว่าเป็นงานส่วนน้อยที่หลายๆ คนไม่รู้จัก หรือว่ารู้จักแต่ไม่มีโอกาสที่ได้ทำก็ว่าได้ ถ้าจะให้เห็นชัดๆ ต้องดูตัวอย่างกันครับ
- ดอกเบี้ย เงินปันผล เช่น การฝากเงินที่ธนาคาร การลงทุนหุ้น หากเรามีเงินมหาศาลพอที่จะสามารถฝากธนาคารเพื่อรอรับดอกเบี้ยเดือนละ 10,000 หรือมากกว่านั้น คงไม่ต้องคิดน่ะครับว่าจะต้องมีเงินฝากเท่าไหร่
- อสังหาริมทรัพย์ เช่น หอพัก อาคารให้เช่า ตลาดนัดที่ให้เช่าพื้นที่ คงไม่ต้องบอกน่ะครับว่า ต้องมีเงินลงทุนที่สูงมากขนาดไหน
- ลิขสิทธิ์ต่างๆ เช่น เฟรนไชน์ต่างๆ ( 7-11 , แม็ค , ไก่ผู้พัน ) เพลงต่างๆ ( เอลวิส ตายไปนานแล้วแต่ครอบครัวยังมีรายได้จากค่าลิขสิทธิ์อยู่เลย __ __" ) นิยายต่างๆ (แฮรี่ ได้ไปกี่ร้อยล้านแล้วหล่ะ และก็น่าจะได้ต่อไปอีกเรื่อยๆ) หรืออะไรก็ได้ที่เราสามารถคิดค้นได้และทำเป็นลิขสิทธิ์ได้ แต่มันก็คงไม่ง่ายอย่างที่คิดใช่มั้ยครับ
- ธุรกิจเครือข่าย ซึ่งส่วนมากที่หลายๆคน ยังคงเข้าใจรูปแบบธุรกิจแนวนี้ผิดไป จะว่าไปแล้วเหมือนหลายๆคนไม่รู้จัก แต่พอพูดไปว่าขายตรงแล้วก็จะร้องอ๋อกันทั้งนั้น อันที่จริงมันไม่ใช่ “ขายตรง” (Direct Sale) โดยตรง หรือ แชร์ลูกโซ่ (Money Game) แต่ไม่ต้องกังวลครับสำหรับผู้ที่สนใจจะทำก็สามารถศึกษาและทำได้ เพราะว่ามันก็ คือ อาชีพๆ หนึ่งที่ต้องมีการทำความเข้าใจ มีความรู้ และความตั้งใจที่จะทำ เหมือนกับงานประจำที่คุณๆทำเหมือนกันนั่นแหละครับ
ธุรกิจเครือข่าย คือ MLM ย่อมาจาก Multi Level Marketing (ระบบการตลาดซ้อนหลายชั้น หรือเรียกสั้นๆ ในบ้านเราว่าธุรกิจเครือข่าย) หรือจะเรียกว่าขายตรงหลายชั้นก็ได้
MLM คือ ระบบ การวางแผนการตลาด การค้ารูปแบบหนึ่ง ซึ่งส่วนมากมองข้ามไปเป็นวิวัฒนาการของการคิด การค้า แบบให้ผลตอบแทนหลายชั้น หลายระดับ คอนเซปง่ายๆ คือใช้ดีแล้วบอกต่อ (เหมือนคุณไปดูหนัง 1 เรื่อง หนังสนุก จึงไปแนะนำให้เพื่อนดู ...โรงหนังไม่ได้ให้ค่าตอบแทนคุณ แต่ธุรกิจเครือข่ายให้ค่าตอบแทนที่คุณช่วยแนะนำ) ทั่วไปมักมองว่าเป็นลูกโซ่ หรือปิรามิด ถ้าลองศึกษาลงไปจะเห็นว่าเป็นระบบที่ดี อยู่ที่มุมมองว่าเรามองอย่างไร
"ถ้าท่านให้ปลาแก่คนจน เขาจะมีปลากินเพียงแค่วันเดียว
แต่ถ้าท่านสอนวิธีจับปลาให้เขา เขาจะมีปลากินตลอดชีวิต
"
Give a man a fish and you feed him for a day. Teach a man to fish and you feed him for a lifetime. (Lao Tzu)
วันนี้มีใครมาสอนวิธีจับปลาให้ท่านบ้างหรือยัง ? และตัวท่านเองได้สอนวิธีจับปลาให้ใครบ้างหรือยัง?...
การทำธุรกิจเครือข่าย ก็เปรียบเสมือนการสอนวิธีจับปลา ถ้าท่านเข้าใจและทำเป็นแล้วสอนวิธีจับปลาให้คนอื่นต่อ นั้นหมานถึงท่านได้มอบโอกาสทองทางธุรกิจให้แก่ผู้มุ่งหวังของท่าน เพื่อท่านเหล่านนั้นจะได้ขยายการวิธีจับปลาให้คนอื่นต่อ เป็นเครือข่ายเป็นทวีคูณ

แผนธุรกิจ Star Matching

วันอังคารที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2553

แผนธุรกิจสตาร์แมทชิ่งเป็นแผนธุรกิจที่ง่ายต่อการปฏิบัติงานให้ผลตอบแทนกับนักธุรกิจเอมสตาร์อย่างสูงสุดจากการซื้อใช้หรือ จำหน่ายผลิตภัณฑ์ และบริหารองค์กรธุรกิจของตังเอง
จุดเด่นมากของแผนสตาร์แมทชิ่ง คือ
• แผนธุรกิจที่ตรงไปตรงมา เข้าใจง่าย และ ดำรงคุณสมบัติ ยอดธุรกิจส่วนตัว 300 PV เท่านั้น
• สร้างแค่ 2 สายงาน
• มีระบบช่วยเหลือสายงานเชิงลึก (Placement) ต้องช่วยกันทำธุรกิจ ไม่ทิ้งสายงาน
• เน้นทำงานเป็นทีมเน้นสร้างเครือข่ายผู้บริโภค ไม่ได้เน้นการขาย เพื่อสร้างยอดส่วนตัวสูง
• รายได้แซงกันได้ อยู่ที่ความตั้งใจและความขยัน
• เป็นธุรกิจเครือข่ายผู้บริโภคอย่างแท้จริง ไม่ใช่เครือข่ายการขาย ไม่ใช่เครือข่ายลูกโซ่ แค่เปลี่ยนที่ซื้อของใช้ ก็จะกลับมาเป็นรายได้ให้สำหรับทุกคน

ตามแผนธุรกิจสตาร์แมทชิ่ง นักธุรกิจเอมสตา์็่ร์จะได้รับรายได้ต่างๆ ดังนี้

1. กำไรจากการขายปลีก 20-30% (Retail Benefit 20-30%)
เป็นกำไรที่เกิดจากการนำสินค้าจากผู้ที่เป็นสมาชิกไปขายให้กับผู้ที่ยังไม่ได้เป็นสมาชิก เช่น สินค้าราคาสมาชิก 750 บาท แต่ราคาข้างกล่องบรรจุภัณฑ์ จะกำหนดไว้ที่ 900 บาท จะได้กำไรจากการขายสินค้า 150 บาท
คำแนะนำ
ไม่แนะนำให้สร้างรายได้นี้ในระยะยาว แต่เป็นรายได้ที่อาจจะมีความจำเป็นสำหรับหรับบางคนในระยะแรกเนื่องจากบางคนอาจมีรายได้ไม่เพียงพอในการซื้อของเพื่อเปลี่ยนเป็น Supervisor ซึ่งกำไรจากการขายปลีกนี้จะสามารถช่วยในการสร้างรายได้เพื่อเป็น Supervisor รวมทั้งช่วยในการรักษายอดได้หากมีลูกค้าประจำ นอกจากนี้ยังทำให้ผู้ที่ซื้อสินค้าได้ทดลองใช้สินค้า ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถเข้าไปชวนได้ในภายหลัง
2. โบนัสส่วนบุคคล 20% (Personal Bonus 20%) (กรณีซื้อใช้แล้วเกิน 1,000 PV, จะคืนกำไร)
หากเรามียอดส่วนตัวเกินกว่า 1,000 PV ยอดที่เกินมาจาก 1,000 PV นั้น บริษัทฯ จะปันผลกลับให้เราอีก 20%
ตัวอย่างเช่น
เรามียอดส่วนตัวในเดือน 1,500 PV ซึ่งเกินมา 1,500 -1,000 = 500 PV
บริษัทก็จะปันผลให้เรา 500 x 20% = 100 บาท
3. โบนัสสาขา 20% (Branch Bonus 20%) (โบนักจากการชวนคน)
เมื่อเราแนะนำเพื่อน ๆ มาสมัคร จะเรียกว่า การสปอนเซอร์ (Sponsor) เราก็จะได้ค่าแนะนำโดยบริษัทจะปันผลให้เราจากยอดการสั่งซื้อสินค้าของเพื่อนเรา 20% แต่ไม่เกิน 1,000 PV หรือ โบนัสจากข้อนี้ได้ไม่เกิน 200 บาท/คน เราจะแนะนำเพื่อนกี่คนก็ได้ ใครแนะนำคนนั้นได้ไม่ว่าเขาจะอยู่ตำแหน่งไหน(ต่อตรงไหน) ขององค์กร คนที่เราแนะนำเราจะเรียกว่าทีมลูก
แผนธุรกิจ Star Matching เป็นแผนธุรกิจแบบ 2 สายงาน และ ระบุชัดเจนว่า เรามีหน้านี้ในการหาสายงานของตัวเองได้แค่ 2 สายงานเท่านั้น ดังนั้น หากสายงานเรามีครบทั้งสองข้างแล้ว ถ้ามีคนสนใจสมัครร่วมธุรกิจกับเราอีก เราก็เอาไปต่อสายงานของเพื่อนเราข้างล่างเพื่อช่วยเหลือทีมงาน โดยที่เขาคนนั้นก็ยังมีสถานะเป็นลูกเราเหมือนเดิมแม้ว่าจะไม่ได้ต่อติดตัวเรา เราก็ยังได้ค่าแนะนำเหมือนเดิม

ตัวอย่างเช่น

คุณจะได้รายได้ข้อนี้ก็ต่อเมื่อ สาขา (ลูก) ของคุณมียอดการซื้อสินค้าเกิดขึ้น บริษัทก็จะจ่ายปันผลให้กับคุณ 20% ของยอดบริโภคของลูกคุณ แต่จะปันผลให้ไม่เกิน 1,000 PV หรือ 200 บาท ครับ ใครแนะนำเพื่อนมากได้มาก แนะนำน้อยได้น้อย ตัวอย่างเช่น สมมติคุณชวนเพื่อน ๆ มาร่วมธุรกิจด้วยกัน 5 คนคือ A, B, C, D, E ต่างมียอดการซื้อผลิตภัณฑ์ส่วนตัวเป็นดังนี้
• A มียอดส่วนตัว 1,000 PV ดังนั้นเราจะได้ปันผล 1,000 x 20% = 200 บาท
• B มียอดส่วนตัว 1,000 PV ดังนั้นเราจะได้ปันผล     800 x 20% = 180 บาท
• C มียอดส่วนตัว 1,000 PV ดังนั้นเราจะได้ปันผล 1,0300 x 20% = 200 บาท
• D มียอดส่วนตัว 1,000 PV ดังนั้นเราจะได้ปันผล 1,000 x 20% = 200 บาท
• E มียอดส่วนตัว 1,500 PV ดังนั้นเราจะได้ปันผล 1,000 x 20% = 200 บาท (คิดสูงสุดที่ไม่เกิน 1,000 PV หรือ 200 บาท)
รวมรายได้ที่คุณจะได้รับในข้อนี้ทั้งหมด 200+180+200+200+200 = 980 บาท
คุณจะพบว่าแค่คุณแนะเพื่อน ๆ ให้เปลี่ยนการซื้อสินค้าจากที่อื่นมาซื้อที่เอมสตาร์แทน คุณก็มีรายได้ และคุณก็แนะนำเพื่อน ๆ ให้มาเป็นสมาชิก ให้ความรู้ที่ถูกต้อง เพื่อนๆก็มีรายได้แล้ว เขาก็ไปชวนเพื่อนๆ ของตัวเองมาทำธุรกิจร่วมกัน แนะนำกันคนละ 1 คน 2 คน ไปเรื่อยๆ เวลาผ่านไปก็สามารถขยายเป็นเครือข่ายบริโภคขึ้นมา นอกจากนี้ยังมีต่ออีก 4 หัวข้อ จะเห็นได้ว่ามีการให้โบนัสรายได้มากที่เดียว
[หมาเหตุ .....ข้อที่1-3 เป็นการเริ่มต้นเท่านนั้น ยังไม่เกิดรายได้ให้ร่ำรวยได้ ถ้าอยากรวยต้องทำข้อ 4-7 ต่อ(การสร้างทีมงาน)]
4. โบนัสทีมอ่อน 20% (Weak Team Bonus 20%)
เมื่อเวลาผ่านไป 1-2 เดือน รายได้จากการสร้างทีมงาน จากการแนะนำเพื่อนกันคนละ 1-2 คนต่อเดือน ก็มีการสร้างเครือข่ายขึ้นมา เราก็จะมียอดธุรกิจเป็น 2 ฝั่ง คือ ฝั่งซ้าย และฝั่งขวา ฝังที่มีคะแนนมากเรียกว่าทีมแข็ง ฝังที่มีคะแนนน้อยเรียกว่าทีมอ่อน ตามรูปภาพธุรกิจ ทีมแข็งมี 35,000 คะแนแ ทีมอ่อนมี 25,000 คะแนน (ที่นี้นับรวมทั้งทีมงานทั้งเป็นเราแนะนำมา และไม่ได้แนะนำแต่อยู่ใต้องค์กรเรา)
ทีมอ่อน 25,000 x 20% = 5,000 บาท
5. โบนัสทีมแข็ง 10-13% (Strong Team Bonus)
นอกจากยังจะได้รับโบนัสทีัมแข็งเป็น 10-13% (ตามตำแหน่ง) เพราะในขั้นต้นจะอยู่ที่ 10% และใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะมีการปรับขึ้นเป็น 11-13% โบนัสทีมแข็งจะคิดเท่าคะแนนของทีมอ่อนคือจะนำคะแนนของทีมแข็งมาคิดเท่า (balance) กับคะแนนของทีมอ่อน ส่วนที่เหลือเก็บไว้คิดเดือนถัดไป
ยอดธุรกิจฝั่งขวายังมีคะแนนเหลือ 35,000 – 25,000 = 10,000 PV
ยอด balance ทีมแข็ง 25,000 x 10% = 2,500 บาท
6. โบนัสสตาร์แมทชิ่ง ทีมลูก 100% (Star Matching Bonus 100%)
รายได้ข้อนี้ เป็นผลมาจากการช่วยเหลือให้ทีมลูก (คนที่คุณแนะนำมา) มีรายได้ในข้อ 5 ได้ ทาง บริษัทฯจะจ่ายปันผลให้กับเราอีก 10% จากยอด Balance ด้านน้อยของทีมลูกของคุณทุก ๆ คน แสดงให้เห็นว่าทางบริษัท มุ่งเน้นให้ทุกคนช่วยกันสร้างสายงานให้มากขึ้นมีค่าตอบแทนและแรงจูงใจมาก
ตัวอย่างเช่น


คุณมีลูกทั้งหมด 5 คนคือ A, B, C, D, E และแต่ละคนมียอดธุรกิจตามที่แสดงในผัง เราจะมีรายได้ดังนี้
A = 5,000 x 10% = 500 บาท (จากยอดทีมแข็งของ A-ข้อ 5) A ได้ 500 บาท คุณก็ได้ 500 บาท (100% )
B = 0 x 10% = 0 บาท (เนื่องจากยอดด้านน้อยเป็นศูนย์ เพราะมีสายงานข้างเดียว)
C = 5,000 x 10% = 500 บาท (จากยอดทีมแข็งของ C-ข้อ 5)C ได้ 500 บาท คุณก็ได้ 500 บาท (100% )
D = 3,000 x 10% = 300 บาท  (จากยอดทีมแข็งของ D-ข้อ 5)D ได้ 300 บาทคุณก็ได้ 300 บาท (100% )
E = 0 x 10% = 0 บาท (เนื่องจากยอดด้านน้อยเป็นศูนย์ เพราะมีสายงานข้างเดียว)
รวมมีรายได้ทั้งหมด = 500+500+300 = 1,300 บาท

รายได้ข้อนี้บริษัทฯ จะจ่ายปันผลให้คุณสูงสุด 312,000 บาท/ลูก 1 คน แสดงว่าถ้าให้การสปอนเซอร์สายงานทีมลูกเยอะ รายได้ก็เยอะตาม เป็นโบนัสพิเศษในการช่วยเหลือทีมลูกและสร้างสายงานใหม่ให้ทีม

7. โบนัสสตาร์แมทชิ่ง ทีมหลาน 50% (Star Matching Bonus 50%)
ทีมหลานเกิดมาจากคนที่ทีมลูกของคุณแนะนำมาทำธุรกิจ คุณจะมีทีมหลานกี่คนก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าทีมลูกคุณได้แนะนำเพื่อนมาทำธุรกิจด้วยกันมากแค่ไหน อย่างเช่น ถ้าทีมลูกคุณสามารถช่วยเหลือให้ทีมหลานคุณมีรายได้ในข้อ 4,5 ได้ ทางบริษัทฯจะจ่ายปันผลให้กับคุณอีก 50% จากยอด แมทชิ่งทีมแข็งหลานคุณทุกๆคน

ตัวอย่างเช่น

วงกลม สีเขียว เป็นทีมหลานของคุณ ซึ่งก็คือคนที่ลูกของคุณ (A, B, C, D, E) ชวนมาร่วมธุรกิจด้วย หากคุณและทีมลูกคุณช่วยเหลือสนับสนุนและให้ความรู้ทีมหลานของคุณให้สามารถมีรายได้ คุณก็จะมีรายได้เช่นกันโดยบริษัทฯจะปันผลให้คุณ 50% ของยอดแมทชิ่งทีมแข็งของทีมหลานทุก ๆ คน ยิ่งมีทีมหลานมาก ยิ่งได้มาก จากตัวอย่างเราจะมีรายได้ดังนี้

• ทีมหลานคนที่ 1 มียอด balanceทีมแข็ง11,000 PV
  หลานคุณจะได้ปันผล11,000 x 10% = 1,100 บาท       
  หลานคนที่ 1 ได้ 1,100 บาท คุณได้ (50% ) ของหลาน 550 บาท
• ทีมหลานคนที่ 2 มียอด balance ทีมแข็ง  0 PV หลานคุณจะได้ัปันผล 0 x 10% = 0 บาท
• ทีมหลานคนที่ 3 มียอด balance ทีมแข็ง  0 PV หลานคุณจะได้ัปันผล 0 x 10% = 0 บาท
• ทีมหลานคนที่ 4 มียอด balance ทีมแข็ง  7,000 PV หลานคุณจะได้ปันผล 7,000 x 10% = 700 บาท
   หลานคนที่ 4 ได้ 700 บาท คุณได้ (50%) ของหลาน 350 บาท
รวมมีรายได้ทั้งหมด = 550+350 = 900 บาท

รายได้ข้อนี้บริษัทฯ จะจ่ายปันผลให้คุณสูงสุด 156,000 บาท/ หลาน 1 คน แสดงว่าทีมหลานเยอะ รายได้ก็เยอะตาม
รายได้ข้อ 6-7 เป็นการช่วยให้เพื่อนเรามีรายได้ รายได้เราก็เพิ่มเป็นทวีคูณ และ เราหยุดทำก็มีรายได้ แต่ต้องรักษายอด(300 pv)การใช้สินค้าส่วนตัวเท่านั้น

สนใจติดต่อ - cherrypowergroup@gmail.com

ข้อแตกต่างของ แชร์ลูกโซ่ กับ ธุรกิจเครือข่าย (MLM)

แชร์ลูกโซ่คืออะไร…? (Money games)
แชร์ลูกโซ่ หมายถึง รูปแบบการดำเนินธุรกรรมที่มุ่งประสงค์เพื่อหารายได้จากการระดมทุนเป็นหลัก โดยมีการสัญญาในการเข้าร่วมธุรกิจที่จะตอบแทนผลประโยชน์ในรูปแบบต่าง ๆ ที่สูงกว่าเงินลงทุน ซึ่งผู้ประกอบการมักจะอ้างถึงการนำเงินไปลงทุนในรูปแบบอื่น ๆ ต่อ ๆ ไป เพื่อปันรายได้แจกจ่ายผู้เข้าร่วมธุรกิจอย่างทั่วถึง แต่ผลของมัน คือ การที่ตอบแทนผลประโยชน์ในช่วงต้น ๆ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการร่วมธุรกิจต่อเนื่องจนเมื่อถึงจุดที่ผู้ประกอบการหวังผลในการระดมทุนสำเร็จแล้ว ก็จะหาทางปิดตัวไปเพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายผลประโยชน์ต่อ ๆ ไป หรืออาจจะดำเนินการต่อเนื่องจนกว่าฐานที่เข้ามาหรือผู้เข้าร่วมธุรกิจที่เข้ามาในช่วงหลังจะไม่สามารถหมุนเวียนเงินตอบแทนได้กับคนที่มาก่อนได้ ก็จะเริ่มปิดตัวลง แชร์ลูกโซ่ไม่ต้องซื้อสินค้า เพียงแต่หาสมาชิกเอาเงินมาลงทุนอย่างเดียว

ธุรกิจเครือข่ายคืออะไร...? Multi-level marketing(MLM) or Network Marketing
ธุรกิจเครือข่าย เป็นระบบธุรกิจการตลาดรูปแบบใหม่ที่เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคสามารถได้เป็นเจ้าของธุรกิจที่สร้างรายได้จำนวนมาก โดยไม่ต้องมีความเสี่ยงและไม่ต้องลงทุนเงินเป็นจำนวนมากเหมือนกับการทำธุรกิจทั่วๆไป เพียงเริ่มต้นจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดี และเมื่อเกิดความประทับใจในตัวผลิตภัณฑ์ที่ใช้ ก็ทำการแนะนำบอกต่อให้คนที่รู้จักได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดีนั้นเหมือนกับตนเป็นการโฆษณาแบบปากต่อปาก เมื่อมีการซื้อผลิตภัณฑ์ใช้ตามคำบอกเล่าจากผู้แนะนำ ก็จะทำให้เกิดกระบวนการเคลื่อนย้ายสินค้าจากผู้ผลิตไปสู่ผู้บริโภคโดยตรง โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการโฆษณาและพ่อค้าคนกลาง เหมือนกับการตลาดแบบเดิม ที่การเคลื่อนย้ายสินค้าจากผู้ผลิตสู่ผู้บริโภคจะต้องผ่านระบบพ่อค้าคนกลางซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับกำไรถึง 60% จากการจัดส่งสินค้ามาสู่ผู้บริโภค

ระบบ 3S + 1M + 1H

วันจันทร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2553

1. S1 (Selling) การขายให้ตัวคุณเองก่อน โดยใช้สินค้า, ใช้ดีแล้วบอกต่อ…เพื่อการสร้างฐานผู้บริโภค
2. S2 (Sponsoring) การเสนอโอกาสทางธุรกิจ …เพื่อขยายการเติบโตและเพื่อสร้างฐานผู้นำ
3. S3 (Servicing or Supporting) การบริการติดตามช่วยเหลือ เพื่อการสร้างองค์กรและสอนวิธีเริ่มต้น    
    และคัดเลือกผู้นำ
4. M (Meeting) การใช้การประชุม เพื่อการเรียนรู้ และเพื่อสร้างธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง
5. H (House Meeting) การประชุมกลุ่มย่อย ซึ่งจะมีผู้ร่วมประชุมตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป จนถึง 30 คน โดยจะเน้นการจัดการประชุมแบบง่ายๆ ที่บ้านของผู้นำ บ้านของทีมงาน ตามร้านกาแฟ หรือฟาสต์ฟู้ด เป็นต้น


สนใจสอบถามรายละเอียด หรือสมัครร่วมธุรกิจ โปรดส่งอีเมลล์มาที่ cherrypowergroup@gmail.com

ระบบการทำงาน 5-4-5

ขั้นตอนปฏิบัติ 5 ข้อสำหรับมือใหม่ 5 START UP

1. ใช้ผลิตภัณภ์ของบริษัทเพื่อหาความประทับใจ Use the product to get quick impression
2. เรียนรู้ศึกษา CD /VCD/DVD ชุดเริ่มต้น(แนะนำธุรกิจ แผนการตลาดและสินค้า) และคู่มือการตอบข้อโต้แย้งต่างๆ Study how to present business opportunity, marketing plan & product’s detail  from CD/ VCD/DVD & Study about dispute resolution from sheet or CD
3. ดูVCD, DVD ชุด BTC เพื่อเรียนรู้การทำงานพื้นฐานให้เข้าระบบ Study BTC: Basic Training Course from VCD, DVD.
4. จัดเวลาพาตัวเองเข้าร่วมการประชุมของกลุ่มและบริษัท (Center,The Winner และ ฯลฯ)
Manage time to attend meeting (Center, The Winner & etc,.)
5. นัด Upline เพื่อค้นหาผู้เข้าร่วมธุรกิจ(คนเอาจริง) อย่างน้อย ซ้าย-ขวา 2 คน สู่ผลลัพธ์ 30,000 - 100,000 บาท ต่อเดือน(ภายใน 6 เดือน)
Get with your upline to sponsor or Recruit at least 2 person, left and right side and let’s them attend meeting to earn income from 30,000 to 100,000 baht a month within 6 months.
สิ่งที่ต้องรู้ 4 อย่างในการทำธุรกิจ (4รู้ หรือ 4 เรียนรู้)  4 Knowledge or 4 Learning
1. ผลิตภัณภ์เกิดจากการใช้เอง หาความประทับใจ  Knowledge about Products
    - แนะนำลองใช้สินค้าเอง หาความประทับใจ แล้วคอยๆเพิ่มกลุ่มสินค้า
    - ศึกษาจากสื่อต่างๆ CD, Brochure, Center, UL ช่วยอธิบายเพิ่มเติม
    - สร้างชุดสาธิตสินค้าพร้อมเรียนรู้ขั้นตอนการสาธิต
2. แผนธุรกิจ เข้าใจกระบวนการ อธิบายต่อได้  Knowledge about Star Matching Plan
    - ฝึกคำนวนรายได้และรู้จักใช้ BEC
    - ดู CD แผนการตลาด (วิธีกานเขียน step by step)
    - ลองฝึกการนำเสนอแผนการตลาดกับ UL เพื่อสร้างความมั่นใจ แล้วลองทำ Case เอง
3. ข้อโต้แย้ง เข้าใจธุรกิจ แก้ไขการเข้าใจผิดได้ (เรียนรู้ฝึกฝนทักษะ)
 Knowledge about dispute resolution
    - ลองอ่านคู่มือ, ฟัง CD ซัก 1-3 รอบ เพื่อความเข้าใจและจดจำเบื้องต้น
    - ลองฝึกถามกับ DL ในข้อที่งายๆ ก่อน เช่นเรื่องลูกโซ่แล้วขัดเกลาการตอบให้
    - เมื่อได้ลองทำ Case แล้ว ไปเจอข้อโต้แย้งอาดตอบได้หรือตอบไม่ได้หรทืไม่กล้าตอบ ให้ลองกลับ
       มาทำการบ้านดูว่าถ้าครั้งหน้าเราเจอเจอข้อโต้แย้งเดียวกันจะตอบอย่างไร?
    - ฝึกตอบอย่างไรให้ผู้ฟังไม่รู้สึกติดลบกับเรา
4. 5 Why เหตุผลที่เราเข้าร่วมธุรกิจเอมสดาร์ 5 Why (The Beauty  Network Marketing)
• Why I join? (แซร์ประสบการณ์ว่า ทำไมได้ตัดสินใจมาร่วมกับธุรกิจเอมสดาร์?)
• Why Network (แนวคิดธุรกิจเครือข่าย)
• Why Aim Star(ความส่วยงามของบริษัท)
• Why System ทำไมต้องใช้ระบบ (Why System)
• Why  Success ทำไมตัดสินใจประสบความใสเร็จ (Why is having a clear decision successful)
5 ค้นหา วางรากฐานสร้างธุรกิจ 5 Search
1. เป้าหมาย – วางเป้าหมายในการทำงาน Target Search
2. รายชื่อ – คิดว่าเราจะนำโอกาสไปมอบให้ใครดี  Prospect List (you must never stop adding your list)
3. นัดหมาย - เพื่อพบเจอ พูดคุย  Make an appointment with
4. สปอนเซอร์ – นำเสนอโอกาสทางธุรกิจ – ปิดสมัคร Sponsoring or recruiting
5. ติดตาม - การติดตามช่วยเหลือให้ข้อมูลเพิ่มเดิม  Following & Supporting

สนใจสอบถามรายละเอียด หรือสมัครร่วมธุรกิจ โปรดส่งอีเมลล์มาที่ cherrypowergroup@gmail.com

เทคนิคการวาง สายงาน

วันเสาร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2553

แผนการตลาด เอมสตาร์ มีการใช้สายงาน แค่ 2 สายงานทำให้ง่ายต่อการดูแลมากๆ การวางสายงานเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ถ้าวางไม่ถูกจะทำให้ทำงานยากขึ้น แต่ถ้าเรามีการวางสายงานที่ดีแล้ว จะช่วยเราได้มากขึ้นอีกเยอะ เลยครับ
ง่ายๆ เริ่มที่วงกลมวงแรกที่ตัวเรานะครับ ถ้ามีคนมาใหม่ก็เอามาต่อแบบนี้ครับ
เช่น (A)-(เรา)-(B) ซ้าย-ขวา ต่อแบบนี้เลยครับ แล้วถ้ามี
ผู้มุ่งหวังมากอีก 5 คนล่ะ เราก็ ต่อ สายตรงๆๆไปเลยครับ
(G)-(E)-(C)-(A)-(เรา)-(B)-(D)-(F)-(H) (แผนไม้เสียบลูกชิ้น)
เห็นไหมง่ายไหมครับ เราลองสังเกตุดีๆๆ นะครับ ว่า ขอยกตัวอย่าง สายแรก สมมุดถ้า (A) ไม่ทำ (C) ก็ไม่ยอมทำด้วย แต่ (E) ซื้อสินค้าใช้ คะแนนก็ จะขึ้นมาหา (A)และ(C) ด้วย เราก็แจ้งข่าวให้ (A)และ(C) ว่ามีคะแนนแล้วนะ
เราก็ อธิบายให้ (A)และ(C) ไปเลยครับว่า ถ้าเป็นไปได้ให้ปิดซุป ถ้าคุณไม่ปิดระบบจะไม่เก็บคะแนนให้ มันน่าเสียดาย แล้วถ้า (A)และ(C) ปิดซุปแล้ว ก็ ไปชวน (A)และ(C) หาแขนอีกข้าง เผื่อให้ (A)และ(C) ได้เงินมากขึ้น พอ (A)และ(C) เริ่มทำเริ่มเก่งแล้ว
(A)และ(C) ก็ จะลงมาช่วย (E)และ(G) ได้ด้วยเช่นกัน แต่ถ้า (A)และ(C) ยังไม่ยอมทำ "อย่า...รอ ครับ" ให้ไปช่วย (G)และ(E) หาลูก หาหลายต่อครับ แค่นี้แหละเราก็จะเกิดผู้นำขึ้นครับ

ธุรกิจ Aim Star คิออะไร?

บริษัท Aim Star Network เป็น บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องอุปโภคบริโภคที่ดีที่สุดของคนไทย และได้ขยายเครือข่ายไปหลายประเทศทั่วโลก และสร้างเครือข่ายข้ามประเทศได้ง่ายๆ ด้วยระบบ One Code One World โดย ประเทศไทยเป็นต้นสายโอกาสทางธุรกิจ
ธุรกิจ Aim Star คือการสร้างกลุ่มเครือข่ายผู้บริโภคขนาดใหญ่ รายได้มาจากการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของเราเอง โดยเริ่มจากคนไกล้ตัว ญาติพี้น้อง เพื่อนฝุงของเรา ให้เปลี่ยนจากพฤติกรรม ที่เคยซื้อเครื่องอุปโภคบริโภคจากท้องตลาดทั่วไป มาซื้อผลิตภัณฑ์ของ Aim Star เปลี่ยนกิจวัตรประจำวันของคุณ ให้เป็นกิจการเพื่อสร้างธูรกิจ เป็นรายได้สู่ครอบครัว “เปลี่ยนรายจ่ายเป็นรายรับ เปลี่ยนกิจวัตรเป็นกิจการ”
Aim Star มีระบบ หรือเครื่องมือ หรือมีวิธีการ ที่จะฝึกฝนแล้วนำพาทีมงานสู่ความสำเร็จ โดยจะพัฒนาจากคนใหม่ที่ยังไม่เข้าใจธุรกิจ ให้เป็นคนที่เข้าใจ และเป็นผู้นำองค์กรที่จะนำพาทีมงานให้ประสบความสำเร็จได้

"นอกจากในประเทศไทยแล้ว ขอฝากถึงพี่น้องคนไทย ที่กำลังอาศัยอยู่ในต่างแดน โดยเฉพาะ ประเทศญี่ปุน กัมพูชา อินเดีย สหรัฐอเมริกา และลาว ทั้งหลายว่า นี้คือโอกาสทองทางธุรกิจ ที่พวกเราคนไทยจะเป็น ต้นสาย และUpline ของคนทั่วโลก อย่งภาคภูมิใจ"  ต่อไปจะขยายสาขาไปยังประเทศจีน เวียดนาม และประเทศเอเซียหลายๆไประเทศอีกด้วย
คุณอยากเป็น Upline ของต่างประเทศหรือไม่?
สนใจติดต่อ - cherrypowergroup@gmail.com

ที่ติดต่อ และที่ตั้ง Center กลุ่ม

วันพฤหัสบดีที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ท่านใดสนใจ ขอเชิญร่วมธุรกิจ เรียนรู้ด้วยกันครับ

ปัจจุบัน มีสายงานแถว บางแค หนองแขมเยอะก็เลย
ได้ร่วมกันจัดตั้ง Center (MAGNET CENTER ) ไว้ที่ตรงข้าม ศูนย์บริการ เอม สตาร์ เน็ทเวิร์ค
สาขาหนองแขม (พาวิเลียน เพลส Pavilion-Place)เพชรเกษม 69

ท่านผู้ใดสนใจเข้าร่วมธุรกิจ เชิญได้เลยครับ
สายบางแค ติดต่อ Sam 081-8230864
สาย ม.ลัย หอการค้า ติดต่อ น้องหนุ่ม 083-9115062 (นักธุรกิจวัยรุ่น วัยละอ่อน)
สายรามคำแหง ติดต่อ บุญส่ง 080-5976448
สายดินแดง ติดต่อ สมชาย 081-4494260
สายพระราม 2 ติดต่อ น้องพลอย 084-1181683 (นักธุรกิจวัยรุ่น วัยละอ่อน)
สายหมู่บ้าน DK บางบอน ติดต่อ แก้ว 087-7116012
สายรังสีต-ปทุมธานี, ม.ปทุมฯ ติดต่อ เก่ง 085-9791556

สนใจสอบถามรายละเอียด หรือสมัครร่วมธุรกิจ โปรดส่งอีเมลล์มาที่ cherrypowergroup@gmail.com

Cherry Power Group กลุ่มพลังซากุระ

Cherry Power Group เป็นกลุ่มรวมพลังของนักธุรกิจ เพื่อความสำเร็จด้วยกันในธุรกิจ เอม สตาร์ เน็ทเวิร์ค (Aim Star Network) ที่เห็นพ้องต้องกันว่า จะเอาดอก Cherry blossom เป็นสัญลักษณ์ของ  กลุ่ม Cherry blossom แปลว่า “ดอกซากุระ” มีความหมายว่า เป็นดอกไม้แห่งการเริ่มต้น เป็นดอกไม้สัญลักษณ์แห่งความรัก (the symbol of love) สัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่ง (richly symbolic)   และ อีกทั้งเป็นดอกไม้ประจำชาติไต(ไทใหญ่) อีกด้วย
ช่วงเวลาดอกซากุระบานนั้น เป็นช่วงเวลาแห่งความสดชื่น สดใส เป็นสัจธรรมพร้อมให้กำลังใจ
ในการเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ จึงเหมาะสมกับ แรงบันดาลใจ กำลังใจ เพื่อสร้างฝันให้เป็นจริงที่  Aim Star
Blog ของ Cherry Power Group ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นสังคมออนไลน์ของกลุ่ม Cherry Power Group เพื่อสร้างและสานสายสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนๆ นักธุรกิจทั่วโลก (ในอนาคตอันใกล้) ที่มีเครือข่าย Aim Star อยู่ และเป็นอีกช่องทางหนึ่งในกระจายข้อมูลข่าวสารต่างๆ ในการดำเนินธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพที่สุด
นอกจากนี้ยังมาคุยกันเล่น แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ทำความรู้จัก หรือสิ่งบันเทิงต่างๆ ก็เอามา
โพสได้นะครับ
อยากบอกถึงทุกๆท่านว่า หลังจากสปอนเซอร์เสร็จก็อย่าลืมให้ที่อยู่บล็อกของกลุ่มไปด้วยแล้วกันเผื่อเพื่อนใหม่เราจะได้เข้ามาค้าหาข้อมูล หรือคุยกันทางนี้ จะได้รู้จักเพื่อนๆ มากยิ่งขึ้น หลังจากเราให้ที่อยู่เว็บไปแล้ว การที่คนใหม่จะเข้าเว็บมาำภายในวันนั้นเป็นไปได้สูงนะครับ เราจะรู้จักกับเพื่อนใหม่ๆ ติดต่อกับเพื่อนใหม่ๆ ได้ง่ายมากขึ้น และอาจได้เพื่อนร่วมธุรกิจใหม่มากขึ้นครับ

ใครเจอกลุ่มเราคนนั้นโชคดี

ให้กำลังใจทุกท่าน
พบกันที่ความสำเร็จครับ

กลุ่ม Cherry Power


สนใจสอบถามรายละเอียด หรือสมัครร่วมธุรกิจ โปรดส่งอีเมลล์มาที่ cherrypowergroup@gmail.com

-----------------------------------------------------

About Blog

Blog นี้สร้างขึ้นมาเพื่อเป็น "คลังข้อมูล" แก่กลุ่มสายงานเท่านั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทแต่อย่างใด ท่านผู้ใดสนใจร่วมธุรกิจ หรือ ต้องการ dowload ข้อมูล กรุณาติดต่อผ่าน Email: cherrypowergroup@gmail.com

ให้เช่า ทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น ในซอยเพชรเกษม 48 ตัดกับ ซอยจรัลฯ 13

ให้เช่า ทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ห้องครัว ห้องรับแขก เนื้อที่ 23 ตารางวา ต่อเติมด้านหน้า ด้านหลัง อยู่ที่หมู่บ้านริมน้ำ ในซอยเพชรเกษม 48 ตัดกับซอย จรัลฯ 13 ใกล้ตลาด ไชยฉิมพลี อยู่หน้าโรงเรียน ไชยฉีมพลี วิทยาคม การเดินทางเข้าออกสะดวกได้หลายทาง ค่าเช่า 6,500 บาท / เดือน สนใจติดต่อ คุณรัศมิ์ โทร. 083-118 9168
ประกาศวันที่ 25 ธัวาคม 2553